รายละเอียดข่าวสารสุขภาพ


  ข่าวสารสุขภาพ วันที่ 30 สิงหาคม 2559
  โดย : ภาคภูมิ ปันสีทอง (แผนงานและสารสนเทศ)



หยุดกินมั่ว! จับคู่อาหารให้สบายท้อง






หลายคนต้องกินยาช่วยย่อย เพื่อคลายความอึดอัดหลังการกินอาหาร ซึ่งถือว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ เพราะรู้หรือไม่ว่าสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้เราท้องอืด อาหารไม่ย่อย ไม่ได้เกิดจากเรากินมากเกินอย่างเดียว แต่เพราะในหนึ่งมื้ออาหารนั้นเรารับประทานอาหารผิดหมวดหมู่ เรียกง่ายๆ ว่า กินมั่ว ดังนั้น เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดต่อร่างกายในการย่อยและดูดซึมสารอาหารที่มีประโยชน์ไปใช้ ด้วยหลักการกินแบบ Food Combination ที่จับคู่กินอาหารหมวดที่เข้ากันได้ดีและไม่จับคู่กินหมวดอาหารที่ไม่เข้ากัน สามารถทำได้ง่ายหากวางแผนล่วงหน้า หลังจากกินแล้วจะรู้สึกตัวเบา อาการจุกเสียด อึดอัด แน่นท้องหายไป และผลพลอยได้คือน้ำหนักค่อยๆ ลดลงในที่สุด

วรรณ์วรี สรรพกุลโรจน์ ครูสอนโยคะ สุขภาพดีขึ้นและน้ำหนักค่อยๆ ลดลงด้วยหลักการกินแบบ Food Combination เธอกล่าวว่า การกินโปรตีนร่วมกับอาหารประเภทแป้งแบบที่เราคุ้นเคย เป็นวิธีกินแบบผิดๆ ที่เพราะทำให้ระบบการย่อยทำงานหนักเกินไป เนื่องจากโปรตีนและแป้งมีกระบวนการและเวลาย่อยแตกต่างกัน จึงทำให้เกิดแก๊สในท้อง มีอาการแน่นเฟ้อ ไปจนถึงท้องผูก

กฎการกินอาหารผสมแบบ Food Combination ตามฉบับครูบุศ ไม่เหมือนการไดเอตแบบจำกัดอาหาร ไม่จำกัดทางเลือกอาหาร แต่จำกัดว่า ควรกินอะไรด้วยกัน เพื่อประโยชน์สูงสุดของร่างกาย

1.หลีกเลี่ยงโปรตีนร่วมกับคาร์โบไฮเดรตในมื้อเดียว เนื้อสัตว์กินกับผักได้เท่านั้น เพราะโปรตีนที่ต่างชนิดกันต้องการเวลาในการย่อยที่ต่างกันจึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมหลังมื้ออาหารเรามีอาการง่วง หรือท้องอืด นอกจากนี้ยังไม่มีแรงด้วย นอกจากนี้ก็ควรทานเนื้อสัตว์ชนิดเดียวในหนึ่งมื้อ การย่อยโปรตีนมากกว่าหนึ่งชนิด เท่ากับบังคับให้ร่างกายต้องทำงานหนักเกินไป การบริโภคโปรตีนชนิดเดียวในหนึ่งมื้อจะประหยัดพลังงานในการย่อย และสิ่งที่ต้องระมัดระวังคือการกินไขมันร่วมกับโปรตีน เพราะไขมันจะไปรบกวนการย่อยโปรตีน

2.ผักสามารถกินร่วมกับอาหารทุกประเภท ยกเว้นผลไม้ที่เป็นเมลอน หากคุณจะปั่นน้ำผักก็สามารถปั่นรวมกับผลไม้ได้

3.ผลไม้ เป็นอาหารที่ไม่ควรทานรวมกับอาหารอย่างอื่น เพราะผลไม้ใช้เวลาย่อยสั้นกว่าอาหารประเภทอื่น ดังนั้น ผลไม้ต้องกินตอนท้องว่าง หรือก่อนอาหารอย่างน้อย 30 นาที ซึ่งผลไม้ก็แบ่งเป็น 4 ประเภทย่อยๆ ที่ต้องการจับคู่กินเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด 1) เมลอน คือผลไม้ที่มีน้ำเยอะ เช่น แตงโม แคนตาลูป 2) ผลไม้รสหวาน เช่น กล้วยมะม่วงสุก และมะละกอ 3) ผลไม้รสชาติกึ่งเปรี้ยวกึ่งหวาน ได้แก่ องุ่น 4) ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว อย่างมะนาว สับปะรด หลักการรวมกันของผลไม้ก็คือ ผลไม้หวานสามารถรวมกับกึ่งเปรี้ยวกึ่งหวาน ผลไม้รสกึ่งเปรี้ยวกึ่งหวานรวมกับเปรี้ยว แต่หวานรวมกับเปรี้ยวไม่ได้ โดยหลักการจำง่ายๆ ก็คือรสชาติคล้ายกันกินด้วยกันได้ ผลไม้ไม่ควรกินหลังอาหาร ยกเว้นสับปะรดซึ่งช่วยย่อย

4.เว้นระยะห่างแต่ละมื้อ 3 ชั่วโมง รอให้อาหารแต่ละประเภทที่ย่อยเสร็จย้ายจากกระเพาะอาหารไปสู่ที่อื่น แล้วค่อยกินมื้อต่อไป จะรู้สึกสบายท้องมากขึ้น

สิ่งที่ วรรณ์วรี แนะนำคือ การทำอาหารกินเองทำให้คุณใช้หลักรวมอาหารได้ง่ายที่สุด เพราะเราสามารถวางแผนการกินของตัวเองได้ นอกจากนี้ยังประหยัดและปลอดภัย แต่หากมีความจำเป็นต้องกินอาหารนอกบ้าน แนะนำให้มีกล่องเปล่าติดตัวไปสำหรับแยกอาหารที่กินด้วยกันไม่ได้ หรือพกไข่ต้ม หรือผลไม้เพื่อรับประทานหากเกิดอาการหิว

“ถ้าหิวมากๆ แนะนำให้กินผลไม้เข้าไปก่อน จากนั้นตามด้วยผัก กินประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ของกระเพาะ จากนั้นเราจะมีสติในการเลือกกินมากขึ้น หากกินตอนเราหิวมากๆ เราจะกวาดทุกอย่างเข้าปากโดยไม่เลือก ซึ่งจะทำให้ปัญหาท้องอืดอาหารไม่ย่อยตามมา”

 

ที่มา : เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์




ข่าวสารสุขภาพ อื่นๆ


สภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตาย

13 กันยายน 2559
52

อย่างไรคือ ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ

30 สิงหาคม 2559
84

“โรค”ที่มากับฝน

11 มิถุนายน 2560
49