โดย : ภาคภูมิ ปันสีทอง (แผนงานและสารสนเทศ)
รู้ได้อย่างไรว่าเป็นมะเร็ง
“มะเร็ง” โรคที่ไม่มีใครอยากให้เกิดกับตัวเองหรือกับคนที่รัก แต่เมื่อเป็นแล้วพฤติกรรมคนทั่วไปมักไม่อยากพบแพทย์ จนอาการป่วยรุนแรง ลุกลาม ทำให้ยากต่อการรักษา
แพทย์จึงแนะนำให้ตรวจสุขภาพทุกปี เพื่อค้นหาความผิดปกติ หรือหมั่นสังเกตอาการเบื้องต้น ซึ่งเป็นวิธีการที่ดี เพราะเราในฐานะเจ้าของร่างกาย ย่อมต้องรู้ถึงความผิดปกติและสภาพร่างกายที่เปลี่ยนไปได้ก่อนผู้อื่น
วิธีสังเกตความผิดปกติของร่างกายได้จากอาการต่อไปนี้
มะเร็งเต้านม จะพบก้อนที่เต้านมหรือรักแร้ เต้านมมีขนาดและรูปทรงเปลี่ยนไป หัวนมบุ๋มหรือหัวนมบอด (จากเดิมที่ปกติ) ผิวหนังที่เต้านมบุ๋มลงไปคล้ายลักยิ้ม ผิวหนังที่เต้านมมีผื่น แดง ร้อน และขรุขระคล้ายผิวส้ม มีของเหลวคล้ายน้ำเหลืองหรือน้ำ เลือดไหลออกจากหัวนม
มะเร็งปากมดลูก ในระยะเริ่มแรกจะไม่มีอาการแสดง ชัดเจนแต่สามารถตรวจพบได้ จากการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ประจำเดือนมานานผิดปกติ มีเลือดออกแบบกะปริบกะปรอยระหว่างรอบเดือน เลือดออกในขณะหรือหลังจากมีเพศสั มพันธ์ เลือดออกหลังวัยหมดประจำเดือน ตกขาวมากผิดปกติและมีมีกลิ่นเหม็นมีเลือดปน
มะเร็งรังไข่ ถือเป็น “มะเร็งเงียบ” ชนิดหนึ่งเพราะตรวจพบยาก เริ่มแรกอาการคล้ายกับโรคทางเดินอาหาร ท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นท้อง ท้องผูก ผู้ป่วยมักคลำเจอก้อนเนื้อแถวท้องน้อย ปวดท้องน้อย ท้องโตขึ้นรวดเร็ว มีพุงห้อยย้อยระดับต่ำกว่าปกติ และมีประจำเดือนผิดปกติ
มะเร็งตับ มีอาการปวดบริเวณชายโครงด้านขวา และอาจปวดร้าวไปที่หลัง และ/หรือไหล่ขวารวมถึงบริเวณลำตัวซีกขวาทั้งหมด ผู้ป่วยมีอาการตัวเหลือง ตาขาวเป็นสีเหลือง น้ำหนักลดอย่างรวดเร็ว อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร มีอาการท้องมาน ตับโตขึ้นจนช่วงท้องเปลี่ยนรูปร่างไป
มะเร็งปอด มีปัญหาเรื่องการหายใจ เช่น หายใจมีเสียงหวีดๆ หรือหายใจสั้นถี่ๆ หอบ เหนื่อยง่ายและเหนื่อยเป็นประจำ หายใจไม่ทั่วท้อง เจ็บหน้าอก ไอบ่อย ไอเป็นเลือดออก เสียงแหบ และน้ำหนักลดอย่างรวดเร็ว
ที่มา : www.siamrath.co.th