รายละเอียดข่าวสารสุขภาพ


  ข่าวสารสุขภาพ วันที่ 19 ตุลาคม 2561

A PHP Error was encountered

Severity: Notice

Message: Undefined variable: rc

Filename: news/healthdetail_view.php

Line Number: 180

A PHP Error was encountered

Severity: Notice

Message: Trying to get property of non-object

Filename: news/healthdetail_view.php

Line Number: 180

()



เปิดทริปท่องเที่ยวธรรมชาติท้าลมหนาว เรื่องใกล้ตัวที่นักแคมป์ปิ้ง ต้องพึงระวัง "ไรอ่อน"






ช่วงนี้ใกล้ถึงเวลาที่เหล่าขาลุยสายท่องเที่ยวธรรมชาติทั้งหลาย ต่างพากันวางแผนเตรียมตัวเดินทางท่องเที่ยวธรรมชาติ ณ สถานที่ต่างๆ ทั่วประเทศ บ้างก็ชอบเดินป่า บ้างก็ชอบขึ้นดอย บ้างก็ชอบแค้มป์ปิ้ง วันนี้ เรามีเรื่องพึ่งระวังเล็กๆน้อยๆมาบอกเล่าเก้าสิบสู่ขาลุยทุกท่าน ซึ่งหากประมาทก็อาจเป็นภัยต่อสุขภาพได้อย่างรุนแรงได้เช่นกัน

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เตือนประชาชนที่เดินทางท่องเที่ยวเข้าป่ากางเต็นท์เพื่อสัมผัสอากาศหนาว ระวังถูกตัวไรอ่อนกัด เสี่ยงป่วยด้วยโรคไข้รากสาดใหญ่ ปีนี้พบผู้ป่วยมากกว่า 7 พันรายแล้ว โดยพบอัตราป่วยสูงสุดในภาคเหนือ แนะสวมเสื้อปิดคอ เสื้อแขนยาวและกางเกงขายาว ส่วนที่อยู่นอกร่มผ้าให้ทายากันแมลงกัด

          นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ช่วงนี้เข้าสู่ต้นฤดูหนาวสภาพอากาศในหลายพื้นที่มีความหนาวเย็น โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูง และป่าไม้ ประชาชนทั้งเด็กและผู้ใหญ่นิยมเดินทางไปท่องเที่ยวเพื่อรับลมหนาวและกางเต็นท์นอนในป่า   ซึ่งนักท่องเที่ยวจะมากขึ้นในช่วงวันหยุดเสาร์และอาทิตย์ สิ่งที่ต้องระมัดระวังคืออาจถูก ตัวไรอ่อนกัดได้ เสี่ยงป่วยด้วยโรคไข้รากสาดใหญ่

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ไรอ่อน

          

ข้อมูลจากสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 14 ตุลาคม 2561   มีรายงานผู้ป่วยโรคไข้รากสาดใหญ่ 7,192 ราย มีผู้เสียชีวิต 4 ราย ภาคที่มีอัตราการป่วยสูงสุด คือ ภาคเหนือมีอัตราการป่วยสูงสุด รองลงมาคือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนจังหวัดที่มีอัตราป่วยสูงสุด 5 อันดับแรก คือ แม่ฮ่องสอน ตาก น่าน เชียงราย เชียงใหม่ ตามลำดับ

          

 

 

 

 

 นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า “โรคไข้รากสาดใหญ่หรือ โรคสครับไทฟัส” (Scrub typhus)   เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่ง ซึ่งมีตัวไรอ่อนเป็นพาหะ ติดต่อทางบาดแผลที่ถูกตัวไรอ่อนกัด ไรอ่อนจะอาศัยอยู่ตามใบไม้ ใบหญ้า ใกล้กับพื้นดิน ไรอ่อนจะกระโดดเกาะตามเสื้อผ้าของคนและกัดผิวหนังที่สัมผัสกับเสื้อผ้า ปกติเราจะมองไม่เห็นตัวไรอ่อน เนื่องจากมีขนาดเล็กมาก ส่วนใหญ่คนจะถูกกัดบริเวณรักแร้ ขาหนีบ รอบเอว หลังถูกไรอ่อนกัดประมาณ 10-12 วัน จะมีอาการปวดศีรษะที่ขมับและหน้าผาก มีไข้สูงตลอดเวลา หนาวสั่น ตาแดงคลื่นไส้อาเจียน ปวดเมื่อยตัว อ่อนเพลีย และบริเวณที่ถูกกัดเป็นแผลบุ๋มสีดำคล้ายรอยไหม้จากบุหรี่จี้ (Eschar) พบผื่นแดงตามร่างกายและแขนขา แต่จะไม่คัน ผู้ป่วยบางรายอาจหายได้เอง แต่บางรายอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงได้ เช่น ปอดอักเสบ เยื่อหุ้มสมองและสมองอักเสบ อาจทำให้เสียชีวิตได้

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ไรอ่อน

           คำแนะนำสำหรับประชาชนที่เดินทางท่องเที่ยวตั้งแคมป์ กางเต็นท์นอนในป่า ควรกางบริเวณโล่งเตียน หลีกเลี่ยงการนั่งและนอนบนพื้นหญ้า บริเวณพุ่มไม้ ป่าละเมาะ หรือหญ้าที่ขึ้นรก คือ ควรสวมเสื้อผ้าให้มิดชิด เช่น เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว และทาโลชั่นกันยุงที่มีส่วนผสมของสาร DEET หรือใช้สมุนไพรทากันยุงซึ่งสามารถป้องกันตัวไรอ่อนกัดได้ นอกจากนี้หลีกเลี่ยงการเข้าไปในบริเวณที่มีตัวไรอ่อนชุกชุม ไม่ว่าจะเป็นป่าโปร่ง ป่าละเมาะ บริเวณที่มีการปลูกป่าใหม่หรือตั้งรกรากใหม่ ทุ่งหญ้า ชายป่าหรือบริเวณต้นไม้ใหญ่ที่แสงแดดส่องไม่ถึง หลังออกจากป่าให้อาบน้ำทำความสะอาดร่างกาย และนำเสื้อผ้าที่สวมใส่มาซักให้สะอาด ด้วยผงซักฟอกเข้มข้น เพราะอาจมีตัวไรอ่อนติดมากับร่างกายหรือเสื้อผ้าได้  หากมีอาการไข้และอาการข้างต้น ภายใน 2 สัปดาห์ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที พร้อมแจ้งประวัติการเข้าป่าให้แพทย์ทราบ เพื่อรับการรักษาโดยเร็ว ป้องกันการเสียชีวิต สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422

 

ขอบคุณแหล่งข่าว  : thairath.com , สสส.

ภาพประกอบ : travel khao ko , TNN24




ข่าวสารสุขภาพ อื่นๆ


เมื่อประเทศไทย กำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์

14 พฤศจิกายน 2561
314

นอนหลับเพียงพอ ดีต่อสุขภาพ

29 มีนาคม 2560
434

ป้องกันภาวะ 'สมองเสื่อม'

15 กันยายน 2560
931